หมาป่า
ประวัติหมาป่า
หมาป่า หรือ หมาป่าสีเทา นับได้ว่าเป็นหมาป่าที่ตัวใหญ่ที่สุดในตระกูลหมาป่าด้วยกันเลยครับ เพศผู้น้ำหนักจะเฉลี่ย 43-45กิโลกรัม(95-99 ปอนด์) ส่วน เพศเมียน้ำหนักเฉลี่ย 36-38.5กิโลกรัม(79-85ปอนด์) เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวถึงตั้ง 2 เมตร มันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หน้าตาคล้ายสุนัข มีหางใหญ่เป็นพวง หน้าอกจะแคบ ขายาว อุ้งเท้าใหญ่ เล็บทื่อ ทำให้เดินบนพื้นที่ลื่นได้ดี และมีหลอดเลือดพิเศษทำให้เลือดไม่แข็งตัวสามารถเดินบนพื้นหิมะได้ดี นอกจากนี้ระหว่างนิ้วเท้าก็มีต่อมกลิ่นทิ้งร่อยรอยให้หมาป่าตัวอื่นตามกลิ่นเจอ มีสัตว์ร่วมตระกูลคือหมาจิ้งจอก หมาใน ไคโยตี ไฮยีน่าและดิงโก หมาป่าจัดอยู่ในสัตว์ประเภทกินเนื้อที่มีนิสัยค่อนข้างดุร้าย ปราดเปรียว เฉลียวฉลาด มีการออกล่าเป็นทีม มีความอดทนรวมทั้งมีความกล้าหาญและความสามารถในการต่อสู้อย่างดีเยี่ยม หมาป่าอาศัยอยู่อย่างกระจัดกระจายในแถบทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ เอเซีย และ แอฟริกาเหนือ ในอดีตมีถึง 32สายพันธุ์ แต่ปัจจุบันหมาป่ากลับถูกไล่ล่าและลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วคงเหลืออยู่เพียงแค่ 4 สายพันธุ์คือ หมาป่าเทาหมาป่าแดง หมาป่าไซบีเรียนและหมาป่าขนคอยาว
ลักษณะทั่วไปของหมาป่า
ความยาว
เฉลี่ย 4.5-6 ฟุต
ความสูง
เฉลี่ย26-32 นิ้ว
น้ำหนัก
ตัวเมีย 27-36 กิโลกรัม
ตัวผู้ 31-50 กิโลกรัม
จำนวนตัวต่อครอก
4-6 ตัว
น้ำหนักแรกเกิด
0.45 กิโลกรัม
อาหาร
กวาง กวางมูส ควายป่าไบซัน นก ตัววีเบอร์ ระยะเวลาตั้งท้อง
63 วัน
ฤดูผสมพันธ์
กุมภาพันธ์-มีนาคม
พฤติกรรมและลักษณะการล่าของหมาป่า
หมาป่าออกล่าเหยื่อแต่ละครั้งจะไปเป็นฝูง ภายในฝูงจะเป็นตัวโตเต็มวัย แต่ละตัวสามารถล่าสัตว์ขนาดไม่โตมากนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปกติแล้วจะออกล่าเหยื่อในตอนกลางวัน โดยเฉพาะตอนเช้าและตอนบ่าย แต่ก็มีบางครั้งที่ออกล่าเหยื่อในคืนเดือนหงาย หมาในมียุทธวิธีในการล่าเหยื่อ 2 แบบใหญ่ ๆ คือ
1. การออกเดินล่าเป็นฝูง ฝูงหมาป่าจะเดินเรียงตามกันเป็นแถวเรียงหนึ่ง เสาะหาเหยื่อโดยการดมกลิ่น ถ้าพบเห็นจะร่วมมือก้นเข้าไล่ล่าทันที ส่วนมากจะเป็นเหยื่อที่หากินตามลำพัง
2. การดักซุ่มอยู่ตามป่า ถ้าฝูงหมาป่าพบเหยื่อหากินอยู่เป็นฝูง จะแยกฝูงออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งไปดักซุ่มอยู่ในป่า อีกส่วนหนึ่งจะเข้าไปรบกวนฝูงสัตว์ให้เหยื่อบางตัวตกใจ และวิ่งเตลิดออกจากฝูงเข้าไปหาหมาป่า อีกส่วนที่ดักรออยู่แล้วจึงลงมือฆ่าเหยื่อ
เหยื่อที่มีขนาดใหญ่จะถูกฝูงหมาป่าล้อมไว้ทุก ๆ ด้าน ทำให้พะว้าพะวังในการป้องกันตัวเอง หมาป่าจะโจมตีเหยื่อโดยเข้าทางด้านหลังและจะกัดบริเวณสะโพกทำให้เหยื่ออ่อนแรงก่อนแล้วจึงเข้ากัดบริเวณท้อง ก่อนที่จะเจาะกินอวัยวะภายใน หมาป่าสามารถฆ่าเหยื่อที่มีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ได้ภายใน 2 นาทีเท่านั้น จึงมีประสิทธิภาพในการล่าสูงมาก สามารถทำอันตรายต่อกระทิง หมี หรือเสือได้
หมาป่าผสมพันธุ์กันตลอดทั้งปี ตัวเมียมีระยะตั้งท้องนานประมาณ 9 สัปดาห์ ปกติจะตกลูกในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ตกลูกครั้งละ 8 ตัว ก่อนหน้านั้นตัวเมียจะหาที่ที่เป็นโพรงใต้ดิน ซอกหินหรือเพิงหินเพื่อเป็นที่ดูแลลูกอ่อนที่จะเกิดใหม่ ในขณะเลี้ยงดูลูกอ่อนถ้าถูกรบกวนโดยมนุษย์หรือศัตรูจะย้ายหาที่ใหม่ที่ปอดภัยทันที เมื่ออายุได้ประมาณ 3 เดือน จะเริ่มออกจากโพรง พออายุ 5 เดือน จะเริ่มตามฝูงออกล่าเหยื่อ และเมื่ออายุ 8 เดือน จึงจะเริ่มล่าสัตว์ขนาดใหญ่ได้
ชื่อทวินาม
Canis lupus
Linnaeus, 1758
สีเขียวคือ ที่อยู่ของหมาป่าในปัจจุบัน
สีแดงคือ ที่อยู่ของหมาป่าในอดีต
หมาป่า หรือ หมาป่าสีเทา นับได้ว่าเป็นหมาป่าที่ตัวใหญ่ที่สุดในตระกูลหมาป่าด้วยกันเลยครับ เพศผู้น้ำหนักจะเฉลี่ย 43-45กิโลกรัม(95-99 ปอนด์) ส่วน เพศเมียน้ำหนักเฉลี่ย 36-38.5กิโลกรัม(79-85ปอนด์) เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวถึงตั้ง 2 เมตร มันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หน้าตาคล้ายสุนัข มีหางใหญ่เป็นพวง หน้าอกจะแคบ ขายาว อุ้งเท้าใหญ่ เล็บทื่อ ทำให้เดินบนพื้นที่ลื่นได้ดี และมีหลอดเลือดพิเศษทำให้เลือดไม่แข็งตัวสามารถเดินบนพื้นหิมะได้ดี นอกจากนี้ระหว่างนิ้วเท้าก็มีต่อมกลิ่นทิ้งร่อยรอยให้หมาป่าตัวอื่นตามกลิ่นเจอ มีสัตว์ร่วมตระกูลคือหมาจิ้งจอก หมาใน ไคโยตี ไฮยีน่าและดิงโก หมาป่าจัดอยู่ในสัตว์ประเภทกินเนื้อที่มีนิสัยค่อนข้างดุร้าย ปราดเปรียว เฉลียวฉลาด มีการออกล่าเป็นทีม มีความอดทนรวมทั้งมีความกล้าหาญและความสามารถในการต่อสู้อย่างดีเยี่ยม หมาป่าอาศัยอยู่อย่างกระจัดกระจายในแถบทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ เอเซีย และ แอฟริกาเหนือ ในอดีตมีถึง 32สายพันธุ์ แต่ปัจจุบันหมาป่ากลับถูกไล่ล่าและลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วคงเหลืออยู่เพียงแค่ 4 สายพันธุ์คือ หมาป่าเทาหมาป่าแดง หมาป่าไซบีเรียนและหมาป่าขนคอยาว
ลักษณะทั่วไปของหมาป่า
ความยาว
เฉลี่ย 4.5-6 ฟุต
ความสูง
เฉลี่ย26-32 นิ้ว
น้ำหนัก
ตัวเมีย 27-36 กิโลกรัม
ตัวผู้ 31-50 กิโลกรัม
จำนวนตัวต่อครอก
4-6 ตัว
น้ำหนักแรกเกิด
0.45 กิโลกรัม
อาหาร
กวาง กวางมูส ควายป่าไบซัน นก ตัววีเบอร์ ระยะเวลาตั้งท้อง
63 วัน
ฤดูผสมพันธ์
กุมภาพันธ์-มีนาคม
พฤติกรรมและลักษณะการล่าของหมาป่า
หมาป่าออกล่าเหยื่อแต่ละครั้งจะไปเป็นฝูง ภายในฝูงจะเป็นตัวโตเต็มวัย แต่ละตัวสามารถล่าสัตว์ขนาดไม่โตมากนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปกติแล้วจะออกล่าเหยื่อในตอนกลางวัน โดยเฉพาะตอนเช้าและตอนบ่าย แต่ก็มีบางครั้งที่ออกล่าเหยื่อในคืนเดือนหงาย หมาในมียุทธวิธีในการล่าเหยื่อ 2 แบบใหญ่ ๆ คือ
1. การออกเดินล่าเป็นฝูง ฝูงหมาป่าจะเดินเรียงตามกันเป็นแถวเรียงหนึ่ง เสาะหาเหยื่อโดยการดมกลิ่น ถ้าพบเห็นจะร่วมมือก้นเข้าไล่ล่าทันที ส่วนมากจะเป็นเหยื่อที่หากินตามลำพัง
2. การดักซุ่มอยู่ตามป่า ถ้าฝูงหมาป่าพบเหยื่อหากินอยู่เป็นฝูง จะแยกฝูงออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งไปดักซุ่มอยู่ในป่า อีกส่วนหนึ่งจะเข้าไปรบกวนฝูงสัตว์ให้เหยื่อบางตัวตกใจ และวิ่งเตลิดออกจากฝูงเข้าไปหาหมาป่า อีกส่วนที่ดักรออยู่แล้วจึงลงมือฆ่าเหยื่อ
เหยื่อที่มีขนาดใหญ่จะถูกฝูงหมาป่าล้อมไว้ทุก ๆ ด้าน ทำให้พะว้าพะวังในการป้องกันตัวเอง หมาป่าจะโจมตีเหยื่อโดยเข้าทางด้านหลังและจะกัดบริเวณสะโพกทำให้เหยื่ออ่อนแรงก่อนแล้วจึงเข้ากัดบริเวณท้อง ก่อนที่จะเจาะกินอวัยวะภายใน หมาป่าสามารถฆ่าเหยื่อที่มีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ได้ภายใน 2 นาทีเท่านั้น จึงมีประสิทธิภาพในการล่าสูงมาก สามารถทำอันตรายต่อกระทิง หมี หรือเสือได้
หมาป่าผสมพันธุ์กันตลอดทั้งปี ตัวเมียมีระยะตั้งท้องนานประมาณ 9 สัปดาห์ ปกติจะตกลูกในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ตกลูกครั้งละ 8 ตัว ก่อนหน้านั้นตัวเมียจะหาที่ที่เป็นโพรงใต้ดิน ซอกหินหรือเพิงหินเพื่อเป็นที่ดูแลลูกอ่อนที่จะเกิดใหม่ ในขณะเลี้ยงดูลูกอ่อนถ้าถูกรบกวนโดยมนุษย์หรือศัตรูจะย้ายหาที่ใหม่ที่ปอดภัยทันที เมื่ออายุได้ประมาณ 3 เดือน จะเริ่มออกจากโพรง พออายุ 5 เดือน จะเริ่มตามฝูงออกล่าเหยื่อ และเมื่ออายุ 8 เดือน จึงจะเริ่มล่าสัตว์ขนาดใหญ่ได้
ชื่อทวินาม | |
---|---|
Canis lupus Linnaeus, 1758 |
สีเขียวคือ ที่อยู่ของหมาป่าในปัจจุบัน
สีแดงคือ ที่อยู่ของหมาป่าในอดีต
10 อันดับสายพันธุ์หมาป่าที่มีความดุร้ายที่สุดในโลก
1. Dire wolf
ไดร์วูลฟ์ หมาป่าโลกันตร์ คือหมาป่าสายพันธุ์โบราณของโลก ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว มันเป็นหนึ่งในสัตว์ไม่กี่ชนิดที่ทรงพลังพอจะฆ่าเสือเขี้ยวดาบบางพันธุ์ได้ รวมทั้งยังสามารถกัดขยี้กระดูกของไบซันร่างยักษ์ได้ไม่ยาก ไดร์วูลฟ์เป็นสัตว์ที่สามารถวิ่งฝ่าหิมะมาได้ดีเป็นอันดับ 1 ของโลก กรามของมันมีแรงกัดถึง 1100 PSI ขนาดตัวปกติอยู่ที่ 170-180 ปอนด์ แต่จากกระดูกที่ใหญ่ที่สุด คาดการ์ณ์ว่าไดร์วูลฟ์อาจหนักได้มากถึง 250 ปอนด์ เชื่อกันว่าแม้ร็อตไวเลอร์หรือพิตบูลสัก 2 ตัวรุมก็คงสู้กับไดร์วูลฟ์ไม่ได้ ซึ่ง ไดร์วูลฟ์ มีนิสัยกล้าหาญ ร่างกายแข็งแกร่ง รูปร่างสวยงามจึงเป็นหมาป่าที่ถูกนำไปเป็นตัวละครในภาพยนตร์หรือซีรีส์ระดับโลกหลายต่อหลายครั้ง
2. Grey wolf
หมาป่าสีเทา นักล่าที่มีแรงกัดมหาศาลด้วยกรามอันทรงพลัง พบได้ในเกือบทุกทวีปของโลก หนาแน่นที่สุดในละแวกเมืองเชอร์โนบิล ประเทศรัสเซีย พวกมันสามารถวิ่งไล่เหยื่อเป็นระยะทางนับร้อยกิโลเมตร สังหารไบซัน ฆ่ากวางมูสตัวโตเต็มวัยได้อย่างสบาย รวมถึงขับไล่เสือพูม่าหรือหมีกริซลี่ได้ เป็นนักล่าที่ครองระบบนิเวศของไซบีเรีย ความสูงถึงไหล่ร่วม 95 เซนติเมตร กระโหลกศรษะอาจยาวได้ 31 เซนติเมตร และหนักได้ร่วม 80 กิโลกรัม แม้แต่วัวมัสคอกซ์ร่างยักษ์ก็อาจเป็นเมนูของหมาป่าสีเทาจอมโหดได้เช่นกัน แน่นอนว่ามนุษย์หลายคนเคยตกเป็นเหยื่อของเจ้าหมาป่าสีเทา
3. Red wolf
หมาป่าแดง มีค่าเฉลี่ยนํ้าหนักอยู่ที่ 20-35 กิโลกรัม เป็นหนึ่งในสัตว์ตระกูลสุนัขที่มีจำนวนน้อยที่สุดในโลก เป็นญาติสนิทของหมาป่าสายพันธุ์เกรย์วูฟผู้โด่งดัง ปัจจุบันมีญาติพี่น้องหลายร้อยตัว เรดวูฟและเกรย์วูฟเป็นสุนัขไม่กี่สายพันธุ์ที่สามารถผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ได้โดยลูกที่ออกมาแล้วไม่เป็นหมัน นักวิทยาศาสตร์บางคนคาดว่าหมาป่าแดงเป็นลูกผสมระหว่างไคโยตีและหมาป่า ลักษณะทั่วไปหมาป่าแดงมีความก้าวร้าว สามารถล่าเหยื่อขนาดใหญ่อย่างกวางได้สบาย ไม่กลัวมนุษย์
4. African wild dog
หมาป่าแอฟริกัน นักล่าที่มีกรามอันทรงพลังและสมองอันปราดเปรื่อง นํ้าหนักตัวมาก 35 กิโลกรัม หัวถึงหางยาวประมาณเกือบ 5 ฟุต ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย เป็นตัวอันตรายของต่อมนุษย์และสัตว์ทุกชนิด บางครั้งสุดยอดนักล่าแห่งแอฟริกาจะรวมฝูงกันล้มเอแลนด์ยักษ์หนัก 1 ตัน ฆ่านกกระจอกเทศ กินกวางคูดู วิลด์เดอร์บีตส์ รวมถึงโค่นล้มไฮยีน่าและสู้กับเสือชีตาห์ได้ด้วย
5. Maned wolf
แมเนดวูฟ หมาป่าเคราขาว มีขนาดใหญ่ หนัก 20-25 กิโลกรัม มีความเร็วระดับน้องๆเสือชีตาร์ โดยมากจะล่าตัวเกรทเทอรรีอากับกวางแพมพัสเป็นอาหาร ไม่แปลกที่แมเนดวูฟจะเป็นสุดยอดนักล่าแห่งทวีปอเมริกาใต้ เพราะมีทั้งฟันคมกริบ ขายาวปราดเปรียว และฟันกรามที่สามารถสับละเอียดเนื้อของเหยื่อได้ในเวลาไม่นาน ซึ่งเป้าหมายของพวกมันคือสัตว์ขนาดเล็กและขนาดกลาง
6. Dhole
หมาใน จอมเขมือบจากเอเชีย พรานล่าเหยื่อสุดดุร้าย ขึ้นชื่อเรื่องการกินเหยื่อทั้งเป็น กล่าวกันว่า หมาใน 5 ตัว จะไล่เสือดาวได้ หมาใน 2 ตัวล้มกวางได้ และบางครั้งพวกมันจะรวมฝูงจำนวนมากเพื่อล่าเหยื่อขนาดใหญ่อย่างควายป่า ฝูงหมาใน 10-15 ตัว จะสร้างปัญหาให้เสือ แต่ถ้าเจอเสือโคร่งตัวใหญ่จริงๆ หมาในอาจต้องรวมฝูงกันถึง 20 ตัว เพื่อโค่นอีกฝ่ายลง แต่ละฝูงจะมีลำดับอำนวจชัดเจน และบางฝูงอาจมีตัวเมียเป็นจ่าฝูงได้
7. Coyote
โคโยตี้ หมาป่าจอมโหดอีกพันธุ์ในทวีปอเมริกาเหนือ บางตัวมีนํ้าหนักถึง 21 กิโลกรัม ในธรรมชาติ วิ่งได้เร็วถึง 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดดได้ใกลถึง 4 เมตร มีฟันที่คมกริบ แรงกัดสามารถหักกระดูกกวาง โคโยตี้ส่วนใหญ่จะออกล่าเหยื่อเป็นฝูงในเวลาก่อนตะวันขึ้น และหัวค่ำ เพราะพวกมันสามารถมองเห็นในที่มืดได้ดี โคโยตี้สามารถล่าเหยื่อได้หลายขนาด ตั้งแต่แมวยันหมูป่า
8.Red fox
หมาจิ้งจอกแดง ยอดนักฆ่าแห่งอเมริกาเหนือ มีขนาดใหญ่โตกว่าบุชด็อก 2 เท่า มันเป็นนักล่าที่สามารถฆ่านกฮูกหงอนยักษ์ ล้มกวางป่าและฆ่าแกะได้อย่างง่ายดาย นักฆ่าตัวนี้จะมีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นตามอาหารที่มีให้กิน หมาจิ้งจอกแดงขนาดใหญ่ที่สุดอาจหนักได้ร่วม 18 กิโลกรัม พบในอังกฤษ โดยเป็นจอมโหดที่กินแกะเป็นว่าเล่น
9. Bush dog
บุชด็อก หมาป่าพันธุ์โหดแห่งอเมริกาใต้ สามารถกระจายพันธ์ทั่วทวีปอเมริกาตอนใต้ มีรายงานว่าบุชด็อก 6 ตัว สามารถสังหารเหยื่อได้อย่างรวดเร็วด้วยการซุ่มโจมตี แต่เมนูหลักของฝูงบุชด็อกจะเป็นตัวคาพีบาราหรือลูกหมูป่า บุชด็อกถือเป็นคู่ต่อสู้ตัวฉกาจของแมวป่าโอเซล็อต
10.Arctic fox
จิ้งจอกอาร์กติก ได้ชื่อว่าเป็นราชันย์นักล่าอาร์คติก เป็นหมาจิ้งจอกขนาดเล็ก อาศัยอยู่ในเขตชายผั่งมหาสมุทรอาร์กติกจนถึงเขตทุนดราที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง จัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอีกชนิดหนึ่งที่มีขนสีขาวเพื่อให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ช่วยให้ล่าเหยื่อได้ง่าย สามารถพรางตัวจากศัตรู ขนาดตัวยาว 90 เซนติเมตร มันสามารถฆ่านกทะเล กินไข่นก นับเป็นสัตว์อันตรายไม่น้อย หลายครั้งมีการโจมตีสัตว์ขนาดใหญ่ด้วย
1. Dire wolf
ไดร์วูลฟ์ หมาป่าโลกันตร์ คือหมาป่าสายพันธุ์โบราณของโลก ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว มันเป็นหนึ่งในสัตว์ไม่กี่ชนิดที่ทรงพลังพอจะฆ่าเสือเขี้ยวดาบบางพันธุ์ได้ รวมทั้งยังสามารถกัดขยี้กระดูกของไบซันร่างยักษ์ได้ไม่ยาก ไดร์วูลฟ์เป็นสัตว์ที่สามารถวิ่งฝ่าหิมะมาได้ดีเป็นอันดับ 1 ของโลก กรามของมันมีแรงกัดถึง 1100 PSI ขนาดตัวปกติอยู่ที่ 170-180 ปอนด์ แต่จากกระดูกที่ใหญ่ที่สุด คาดการ์ณ์ว่าไดร์วูลฟ์อาจหนักได้มากถึง 250 ปอนด์ เชื่อกันว่าแม้ร็อตไวเลอร์หรือพิตบูลสัก 2 ตัวรุมก็คงสู้กับไดร์วูลฟ์ไม่ได้ ซึ่ง ไดร์วูลฟ์ มีนิสัยกล้าหาญ ร่างกายแข็งแกร่ง รูปร่างสวยงามจึงเป็นหมาป่าที่ถูกนำไปเป็นตัวละครในภาพยนตร์หรือซีรีส์ระดับโลกหลายต่อหลายครั้ง
2. Grey wolf
หมาป่าสีเทา นักล่าที่มีแรงกัดมหาศาลด้วยกรามอันทรงพลัง พบได้ในเกือบทุกทวีปของโลก หนาแน่นที่สุดในละแวกเมืองเชอร์โนบิล ประเทศรัสเซีย พวกมันสามารถวิ่งไล่เหยื่อเป็นระยะทางนับร้อยกิโลเมตร สังหารไบซัน ฆ่ากวางมูสตัวโตเต็มวัยได้อย่างสบาย รวมถึงขับไล่เสือพูม่าหรือหมีกริซลี่ได้ เป็นนักล่าที่ครองระบบนิเวศของไซบีเรีย ความสูงถึงไหล่ร่วม 95 เซนติเมตร กระโหลกศรษะอาจยาวได้ 31 เซนติเมตร และหนักได้ร่วม 80 กิโลกรัม แม้แต่วัวมัสคอกซ์ร่างยักษ์ก็อาจเป็นเมนูของหมาป่าสีเทาจอมโหดได้เช่นกัน แน่นอนว่ามนุษย์หลายคนเคยตกเป็นเหยื่อของเจ้าหมาป่าสีเทา
3. Red wolf
หมาป่าแดง มีค่าเฉลี่ยนํ้าหนักอยู่ที่ 20-35 กิโลกรัม เป็นหนึ่งในสัตว์ตระกูลสุนัขที่มีจำนวนน้อยที่สุดในโลก เป็นญาติสนิทของหมาป่าสายพันธุ์เกรย์วูฟผู้โด่งดัง ปัจจุบันมีญาติพี่น้องหลายร้อยตัว เรดวูฟและเกรย์วูฟเป็นสุนัขไม่กี่สายพันธุ์ที่สามารถผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ได้โดยลูกที่ออกมาแล้วไม่เป็นหมัน นักวิทยาศาสตร์บางคนคาดว่าหมาป่าแดงเป็นลูกผสมระหว่างไคโยตีและหมาป่า ลักษณะทั่วไปหมาป่าแดงมีความก้าวร้าว สามารถล่าเหยื่อขนาดใหญ่อย่างกวางได้สบาย ไม่กลัวมนุษย์
4. African wild dog
หมาป่าแอฟริกัน นักล่าที่มีกรามอันทรงพลังและสมองอันปราดเปรื่อง นํ้าหนักตัวมาก 35 กิโลกรัม หัวถึงหางยาวประมาณเกือบ 5 ฟุต ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย เป็นตัวอันตรายของต่อมนุษย์และสัตว์ทุกชนิด บางครั้งสุดยอดนักล่าแห่งแอฟริกาจะรวมฝูงกันล้มเอแลนด์ยักษ์หนัก 1 ตัน ฆ่านกกระจอกเทศ กินกวางคูดู วิลด์เดอร์บีตส์ รวมถึงโค่นล้มไฮยีน่าและสู้กับเสือชีตาห์ได้ด้วย
5. Maned wolf
แมเนดวูฟ หมาป่าเคราขาว มีขนาดใหญ่ หนัก 20-25 กิโลกรัม มีความเร็วระดับน้องๆเสือชีตาร์ โดยมากจะล่าตัวเกรทเทอรรีอากับกวางแพมพัสเป็นอาหาร ไม่แปลกที่แมเนดวูฟจะเป็นสุดยอดนักล่าแห่งทวีปอเมริกาใต้ เพราะมีทั้งฟันคมกริบ ขายาวปราดเปรียว และฟันกรามที่สามารถสับละเอียดเนื้อของเหยื่อได้ในเวลาไม่นาน ซึ่งเป้าหมายของพวกมันคือสัตว์ขนาดเล็กและขนาดกลาง
6. Dhole
หมาใน จอมเขมือบจากเอเชีย พรานล่าเหยื่อสุดดุร้าย ขึ้นชื่อเรื่องการกินเหยื่อทั้งเป็น กล่าวกันว่า หมาใน 5 ตัว จะไล่เสือดาวได้ หมาใน 2 ตัวล้มกวางได้ และบางครั้งพวกมันจะรวมฝูงจำนวนมากเพื่อล่าเหยื่อขนาดใหญ่อย่างควายป่า ฝูงหมาใน 10-15 ตัว จะสร้างปัญหาให้เสือ แต่ถ้าเจอเสือโคร่งตัวใหญ่จริงๆ หมาในอาจต้องรวมฝูงกันถึง 20 ตัว เพื่อโค่นอีกฝ่ายลง แต่ละฝูงจะมีลำดับอำนวจชัดเจน และบางฝูงอาจมีตัวเมียเป็นจ่าฝูงได้
7. Coyote
โคโยตี้ หมาป่าจอมโหดอีกพันธุ์ในทวีปอเมริกาเหนือ บางตัวมีนํ้าหนักถึง 21 กิโลกรัม ในธรรมชาติ วิ่งได้เร็วถึง 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดดได้ใกลถึง 4 เมตร มีฟันที่คมกริบ แรงกัดสามารถหักกระดูกกวาง โคโยตี้ส่วนใหญ่จะออกล่าเหยื่อเป็นฝูงในเวลาก่อนตะวันขึ้น และหัวค่ำ เพราะพวกมันสามารถมองเห็นในที่มืดได้ดี โคโยตี้สามารถล่าเหยื่อได้หลายขนาด ตั้งแต่แมวยันหมูป่า
8.Red fox
9. Bush dog
10.Arctic fox
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น